ขอบคุณมากมายครับผม 1 Like = 1 กำลังใจ 1 share = 100 กำลังใจ 1 subscribe = 1000 กำลังใจ Fackbook: My Chanal: Q ลบ ลูก ศร shortcut windows 7 ลบ ลูก ศร shortcut windows 8 ลบ ลูก ศร ออก จาก ไอคอน win7 ลบลูกศร icon win7 ลบลูกศร shortcut ลบลูกศร shortcut win xp ลบลูกศร shortcut win10 ลบลูกศร shortcut win7 ลบลูกศร shortcut win8 ลบลูกศร shortcut win8. 1 ลบลูกศร shortcut xp ลบลูกศร win 8 ลบลูกศร ไอคอน ลบลูกศรออกจาก shortcut บนเดสท็อป win7 ลบลูกศรไอคอน xp วิธี ลบ ลูก ศร shortcut วิธี ลบ ลูก ศร ที่ shortcut วิธี ลบ ลูก ศร ที่ shortcut win7 วิธี ลบ ลูก ศร ออก จาก ไอคอน นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆWIKI
กดปุ่ม Windows และ R เพื่อเปิดกล่อง Run พิมพ์ "" แล้วคลิกตกลง หรือกด Enter <แข็งแกร่ง>2. เมื่อหน้าต่าง Services เปิดขึ้น ให้เลื่อนลงไปที่รายการ Windows Update คลิกขวา และ เลือก Properties 3. เลือกปิดการใช้งานจากเมนูแบบเลื่อนลงประเภทการเริ่มต้น จากนั้นคลิกหยุดในส่วนสถานะบริการด้านล่าง คลิกตกลงหรือใช้ เพื่อปิดใช้งานการอัปเดต Windows อัตโนมัติ 4. หากการปิดใช้งานการอัปเดตอย่างถาวรดูรุนแรงเกินไป ให้เลือกด้วยตนเอง จากเมนูประเภทการเริ่มต้นแทน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบและติดตั้งการอัปเดตได้ด้วยตนเอง เพียงไปที่การตั้งค่า > การอัปเดตและความปลอดภัย > Windows Update และ คลิกตรวจหาการอัปเดต วิธีปิดการอัปเดตอัตโนมัติ: ใช้ Windows Update Blocker Y คุณสามารถหลีกเลี่ยงไม่ต้องปรับแต่งการตั้งค่า Windows ทุกครั้งที่คุณต้องการเปิดหรือปิดการอัปเดตอัตโนมัติโดยติดตั้งโปรแกรมฟรีที่ชื่อว่า Windows Update Blocker วิธีใช้งานมีดังนี้ 1. ดาวน์โหลด ตัวบล็อกการอัปเดต Windows 2. คลิกขวาที่ไฟล์ที่ดาวน์โหลดและ สแกนไฟล์ด้วยซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส <แข็งแกร่ง>3. แตกไฟล์และรันโปรแกรม ไม่ต้องติดตั้ง 4. เมื่อโปรแกรมเปิดขึ้น เพียง คลิก ปิดใช้งานการอัปเดต และ เลือก ใช้ทันที การดำเนินการนี้จะปิดการอัปเดตอัตโนมัติใน Windows 10 ทันที และ โล่สถานะการบริการ จะเปลี่ยนจากขีดสีเขียวเป็นเครื่องหมายกากบาทสีแดง (เครดิตรูปภาพ: Tom's Guide) 5.
10 Windows 10 ช้ามาก แก้ให้เร็วขึ้นใน 10 ขั้นตอน ฟรี! ปี 2021 แก้ปัญหา windows 10 ช้า Windows10 TipWindows10 แก้ปัญหา Windows10ช้า Windows 2. อัพเดตไดรเวอร์ ให้ครบ เมนบอร์ด การ์ดจอ ชิปเซ็ตและอื่นๆ Temp ลบไฟล์ขยะใน Recycle Bin บ้าง อย่าปล่อยให้รก 4. ลบไฟล์ Temp ที่ค้างอยู่ในระบบทั้งหมด พิมพ์%temp% แล้วเลือกทั้งหมด กด Enter 5. ปิด Service และ Startup Program บางตัวที่ไม่จำเป็น 6. ถ้าเป็นฮาร์ดดิสก์อย่าลืม Optimize \u0026 Disk Defragment ด้วย 7. หากช้าแบบไม่มีสาเหตุ ให้ลอง Check Error 8. เปิดใช้งาน Storage Sense จัดการพื้นที่ว่างให้อัตโนมัติ 9. หากจำเป็นจริง อย่าลืมปิดเอฟเฟกต์ 10. ปิด Show Animations in Windows เพิ่มความเร็วโน๊ตบุ๊ค เพิ่มความเร็วWindows10 NBS NotebookSPEC นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆVIRTUAL CURRENCY tại đây
เปิดโปรแกรม Registry Editor โดยกดแป้นพิมพ์ Windows + R จากนั้นพิมพ์ ในช่อง Open เสร็จแล้วคลิก OK หรือกดปุ่ม Enter (คลิก Yes บนหน้า User Account Control – ถ้ามี) 2. บนหน้าต่าง Registry Editor ให้ท่องไปยัง HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Policies\Microsoft\Windows\WindowsUpdate\AU ทำการสร้างคีย์ WindowsUpdate และ AU ตามขั้นตอนดังนี้ (กรณีมีคีย์ WindowsUpdate และ AU อยู่แล้วให้ข้ามไปข้อ 3) 2. 1. คลิกขวาคีย์ Windows แล้วเลือก New จากนั้นเลือก Key ตั้งชื่อคีย์ที่สร้างใหม่ว่า WindowsUpdate 2. 2 คลิกขวาคีย์ WindowsUpdate ที่สร้างในขั้นตอน 2. 1 แล้วเลือก New จากนั้นเลือก Key ตั้งชื่อคีย์ที่สร้างใหม่ว่า AU 3. (กรณีมีรีจีสทรีย์คีย์ NoAutoUpdate อยู่แล้วให้ข้ามไปข้อ 3. 1) ทำการสร้างรีจีสทรีย์คีย์ NoAutoUpdate โดยในบานหน้าต่างด้านซ้ายให้คลิกขวาบน AU จากนั้นเลือก New แล้วเลือก DWORD (32-bit) Value ตั้งชื่อรีจีสทรีย์คีย์ว่า NoAutoUpdate หัวข้อ Base เลือกเป็น Hexadecimal จากนั้นในช่อง Value data: ให้ตั้งค่าเป็น 1 เสร็จแล้วคลิก OK 3. 1 ในบานหน้าต่างด้านขวาให้ดับเลิคลิกรีจีสทรีย์คีย์ว่า NoAutoUpdate แล้วบนหน้า Edit DWORD (32-bit) Value หัวข้อ Base เลือกเป็น Hexadecimal จากนั้นในช่อง Value data: ให้ตั้งค่าเป็น 1 เสร็จแล้วคลิก OK รูปที่ 5 เสร็จแล้วจะได้รีจีสทรีย์คีย์ NoAutoUpdate, Type เป็น REG_DWORD และ Data เป็น 0x00000001 (1) ลักษณะดังรูปที่ 13 รูปที่ 6 4.
เปิดเครื่องคอม Windows 10 แล้วหน้าจอแสดงข้อความ TEST MODE ไม่ต้องตกใจ เครื่องยังไม่ได้พังหรือมีปัญหาอะไร สามารถปิด Test mode (โหมดทดสอบ) ไม่ให้ทำงานได้ ซึ่งโหมดนี้เริมมีตั้งแต่ Windows 7 ซึ่งเอาไว้ใช้งานกรณีที่ต้องการติดตั้งโปรแกรมที่ไม่มีใบรับรองการตรวจสอบความถูกต้องได้ การปิด TEST MODE หรือ TESTSIGNING ใน Windows 10 โดย User เราจำเป็นต้องมีสิทธิ์เป็น Admin หรือ User ที่สามารถติดตั้งและตั้งค่าระบบเองได้ 1. ที่คีย์บอร์ดให้กดปุ่ม Windows + X (กดปุ่มที่มี Logo Windows ค้างไว้ แล้วกดตัว X) 2. จากนั้นจะแสดงหน้าต่าง quick menu ให้เลือกที่ Windows PowerShell (Admin) 3. หากแสดงหน้าต่าง User Account Control ให้เลือกปุ่ม Yes 4. ที่หน้าต่างของ Windows PowerShell ให้พิมพ์คำสั่ง " bcdedit -set TESTSIGNING OFF " (ไม่ต้องใส่ ") 5. กดปุ่ม Enter หลักจากนั้นปิดหน้าต่าง Windows PowerShell และให้ทำการ Retart เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 ครั้ง และเมื่อกลับสู่หน้าจออีกครั้งก็จะเข้าโหมด ปกติแล้ว และหากว่าต้องการเปิดใช้งานโหมดทดสอบนี้อีกครั้ง ก็ให้ทำการแก้ไขคำสั่งจาก OFF เป็น ON (bcdedit -set TESTSIGNING ON) เขียนบทความเกี่ยวกับ Windows, MS. Office และ Software อื่นๆ แนะนำการใช้งาน การตั้งค่าเบื้องต้น ทิปต่างๆ ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกๆ ท่าน และหากมีส่วนไหนผิดตกบกพร่อง ติชมชี้แนะได้ที่ Comment ด้านล่างได้ครับ
หากต้องการเปิดการอัปเดตอัตโนมัติอีกครั้ง เพียง เลือกเปิดใช้งานการอัปเดต แล้วคลิก"สมัครเลย" หากต้องการตรวจสอบว่า Windows Update Blocker ทำงานอยู่ คลิกเมนู และ เลือกตัวเลือกการอัปเดต เพื่อเปิดหน้าจอการตั้งค่า Windows Update ที่นี่คุณสามารถตรวจสอบได้ว่ามีการเปิดใช้หรือปิดใช้งานการอัปเดต Windows อัตโนมัติ ตามที่คุณต้องการ (Image credit: Tom's Guide)
92veso.com, 2024 | Sitemap