ทำหมูหวานล้างหมูสามชั้นให้สะอาด (ซื้อแบบลักษณะเป็นชิ้นใหญ่ 1-2 ชิ้นรวมแล้วได้ 400 กรัม) นำไปต้มในน้ำเดือดใส่เกลือเล็กน้อยประมาณ 30 นาที ตักออกพักไว้จนเย็นสนิท หั่นเอาหนังหมูออก แล้วหั่นเนื้อหมูเป็นเต๋าขนาด 1 ซม. เตรียมไว้ ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟอ่อนใส่หอมแดงลงผัดจนสุกนุ่ม เร่งเป็นไฟกลาง ใส่หมูสามชั้นที่หั่นไว้ลงผัด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำผัดจนหมูหวานงวดและขึ้นเงา ชิมรสให้ออกหวานนำเค็ม 2. ทำปลาดุกฟูโดยแกะปลาดุกย่างเอาแต่เนื้อขาวๆ นำไปตากแดดสัก 1 เเดด พอให้เนื้อปลาดุกแห้ง แบ่งโขลกเนื้อปลาในครกเป็นสองรอบ โดยแต่ละครั้งที่โขลกใส่น้ำมันพืชลงไปด้วย (แบ่งจากน้ำมันที่จะใช้ทอด) ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ ขึ้นอยู่กับคยวามชื้นหรือแห้งของเนื้อปลา ใช้สากคนวนๆยีให้เนื้อปลาดูดน้ำมันเข้าไป ทดลองจับดูแล้วเนื้อปลาดุกเนียนนุ่มมือ เวลาทอดปลาจะฟูกรอบไม่กระด้าง 3. ตั้งกระทะน้ำมันพืชที่เหลือบนไฟกลาง (ปริมาณน้ำมันขึ้นกับขนาดหม้อหรือกระทะ พยายามอย่าใช้กระทะกว้าง ไม่เช่นนั้นวงน้ำมันจะกว้างและระดับน้ำมันจะตื้นเกินไป ไม่เหมาะจะทอดปลาดุกฟู) พอน้ำมันร้อนได้ที่ (ทดลองหยอดเนื้อปลาดุกที่โขลกแล้วลงไป เนื้อปลาจะเด้งฟูขึ้นที่ผิวน้ำมันทันที) โปรยเนื้อปลาประมาณ 1/3 ถ้วยลงไปที่ผิวน้ำมัน ใช้กระชอนตะล่อมแพปลาดุกเข้าหากัน พอด้านล่างเหลือง พลิกกลับด้าน ทอดต่อจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นวางบนกระดาษทิชชูแผ่นหนาเพื่อซับมัน 4.
น้ำพริกลงเรือ สูตรดุดัน! เผ็ดกันทั้งบนบก และในน้ำ | the next youtuber - YouTube
น้ำพริกลงเรือ สูตรโบราณ - YouTube
โขลกน้ำพริกโดยเริ่มจากโขลกกระเทียมกับกะปิให้เนียนเข้ากันใส่พริกทั้งสองชนิดลงโขลกจนละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาวตามชอบพักไว้ (หากใช้มะดันให้ใส่เนื้อมะดันหลังโขลกพริกละเอียดแล้ว) 2. ผัดหมูสามชั้นหรือหมูสับกับน้ำมันพืชสักพัก ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลา ผัดจนน้ำตาลรัดเนื้อหมูดี ชิมดูให้ออกรสจัด ปิดไฟ 3. นำน้ำพริกที่โขลกไว้เคล้ากับหมูหวานให้เข้ากันชิมรสตามชอบพักไว้ 4. แกะเนื้อปลานึ่งแล้วยีด้วยมือให้ละเอียด ก่อนนำไปทอดในน้ำมันให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นซับน้ำมัน พักไว้ 5. ยีเนื้อปลาทอดใส่ลงในน้ำพริก พร้อมกระเทียมดองและไข่แดงหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จัดเสิร์ฟพร้อมกับผักสดและผักลวก พลังงานต่อหนึ่งถ้วย 848. 45 กิโลแคลอรี โปรตีน 33. 05 กรัม ไขมัน 71. 87 กรัม คาร์โบไฮเดรต 15. 07 กรัม ไฟเบอร์ 0. 27 กรัม โดย Health&Cuisine เรียบเรียง: กรองกาญน์ ชัยยะปะปัง ภาพ: ทีมภาพ H & C สูตรอาหารแนะนำ น้ำชุบโจร น้ำพริกสูตรเด็ดภาคใต้ ป่นไก่ สูตรเด็ดเมนูอีสาน แซ่บนัวได้ใจ น้ำพริกมะขาม อร่อยยกกำลังสองเด็ดถึงใจ น้ำพริกกะปิครกทอง สูตรเด็ดเมนูไทยรวยรส ต้มกะทิสายบัวปลาทู อาหารไทยโบราณมากคุณค่า แกงหมูพริกขี้หนูโรตี สูตเด็ดรสไทยๆ เผ็ดแซ่บ!!
ล. เนื่อง นิลรัตน์ เปิดเผย ถึงผู้คิดค้นสูตรน้ำพริกลงเรือ คือหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ พระนัดดาในพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ ฯ ขณะประจำห้องเครื่องในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดี กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ วังสุนันทาในอดีต ร่มรื่นด้วยพรรณไม้หลากหลายและลำคลอง ซึ่งนิจ เหลี่ยมอุไร ถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้รับจากคำบอกเล่าของ ม. เนื่อง นิลรัตน์ ผู้เป็นย่า ถึงที่มาของสูตรน้ำพริกลงเรือว่า วันหนึ่ง พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ ฯ มีพระประสงค์จะเสวยอาหารในเรือ จึงรับสั่งกับ ม. ร. ว. สลับ ลดาวัลย์ ให้ไปดูในครัวว่ามีอะไรบ้าง ม.
ร. ว. สลับ ลดาวัลย์ ให้ไปดูในครัวว่ามีอะไรบ้าง ม. สดับ ลดาวัลย์ เมื่อเดินเข้าไปสำรวจอาหารในห้องเครื่อง ก็พบว่าเหลือเพียงปลาดุกทอดฟูและน้ำพริกตำไว้เท่านั้น จึงนำน้ำพริกกับปลามาผัดรวมกัน เติมหมูหวานลงไปเล็กน้อย ตามด้วยไข่เค็ม ทิ้งไข่ขาว ใช้เฉพาะไข่แดงดิบ วางเรียงรายลงไป แล้วจัดเครื่องเคียง อาทิ ผักต้ม ผักสด ถวายเป็นอาหารมื้อเย็นบนเรือ ซึ่งทั้งพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ และกรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี ทรงโปรดน้ำพริกถ้วยนี้มาก น้ำพริกสูตรใหม่ที่เจ้านายเสวยในเรือ จึงเป็นต้นตำรับของ น้ำพริกลงเรือ ที่พบเห็นและสืบทอดกันจวบปัจจุบันนานกว่าร้อยปี นิจ เหลี่ยมอุไร หลานย่าของ ม. ล. เนื่อง นิลรัตน์ หัวหน้าห้องเครื่อง หนึ่งในผู้สืบทอดน้ำพริกลงเรือตำรับ 'วังสุนันทา' เล่าถึงเคล็ดอร่อยของน้ำพริกสูตรนี้ว่า อยู่ที่การปรุงให้มีรสเปรี้ยว รสเค็ม และรสหวาน อย่างกลมกลืน โดยไม่ปล่อยให้รสชาติใดรสชาติหนึ่ง 'นำโดด' กว่ารสอื่นเป็นอันขาด "อาหารชาววัง ไม่ได้เป็นอย่างที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่ามักจะใช้รสหวานนำเสมอเพราะหากเป็นอาหารต้นตำรับชาววังแท้ๆ แล้ว จะต้องมีรสชาติกลมกล่อมครบทุกรสเท่านั้น" และต่อจากนี้ก็คือสูตรเด็ดวิธีการทำน้ำพริกลงเรือตำรับชาววังค่ะสาวๆ ใครอยากมัดใจชายหนุ่มด้วยเสน่ห์ปลายจวักล่ะก็ จดไว้ด่วนๆ เลยค่า เครื่องปรุงตำรับชาววัง ประกอบด้วย 1.
92veso.com, 2024 | Sitemap