แบ่งตามลักษณะ 1. 1 Blog (บล็อก) Blog คือคอนเทนต์ในลักษณะบทความ เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการนำเสนอรายละเอียดสินค้า ข้อมูลของบริการ หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายมาก สร้างให้เกิดการรับรู้และช่วยเพิ่มยอดขายได้ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO อีกด้วย (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ SEO (Search Engine Optimization) คือ? ) 1. 2 Visual Content (รูปภาพหรือวิดีโอ) Visual Content คือคอนเทนต์ที่เน้นการมองเห็นเป็นหลัก มีจุดเด่นที่ใช้ได้ทั้งการให้ข้อมูล สื่ออารมณ์ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ โดยแบ่งได้เป็น รูปภาพ สามารถสื่อสารจุดประสงค์ของคอนเทนต์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังจัดทำเป็นอัลบั้มเพื่อใช้เล่าเรื่องราวให้น่าสนใจมากขึ้น อินโฟกราฟิก ใช้ทั้งรูปภาพและข้อความอธิบายข้อมูลต่างๆ ให้เข้าใจง่าย เช่น การสรุปสถิติเป็นกราฟ วิดีโอ ช่วยดึงดูดความสนใจและกระตุ้นอารมณ์ได้มาก เพราะเป็นคอนเทนต์ที่ใช้ได้ทั้งภาพและเสียง 1. 3 Podcast (พอดแคสต์) Podcast คือคอนเทนต์ที่ถ่ายทอดเนื้อหาด้วยเสียงเป็นหลัก โดยสามารถฟังได้จากทางอินเทอร์เน็ต นอกจากข้อมูลหรือเรื่องราวต่างๆ แล้วยังสามารถสื่อสารอารมณ์ไปยังผู้ฟัง ผ่านน้ำเสียงของผู้พูด ดนตรี และซาวน์เอฟเฟกต์ ช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับการทำ Content Marketing ได้เป็นอย่างดี 1.
4 E-book (อีบุ๊ก) E-book เป็นคอนเทนต์ที่มีลักษณะคล้ายกับ Blog แต่เปรียบเป็น Blog ขนาดยาว มีการรวบรวมเรื่องราวไว้มากมายและมีหลากหลายหัวข้อ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ดี สามารถแจกฟรีให้กับผู้ที่สนใจได้ ช่วยกระตุ้นการรับรู้ให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี 1. 5 Case Study (กรณีศึกษา) Case Study เป็นอีกหนึ่งลักษณะที่น่าสนใจสำหรับการทำ Content Marketing เนื่องจากเป็นประโยชน์ทั้งต่อแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย ด้านแบรนด์เองจะได้เรียนรู้ข้อดีและข้อผิดพลาด ซึ่งนำไปพัฒนาสินค้าหรือบริการให้ดีขึ้น ส่วนกลุ่มเป้าหมายก็ได้เห็นการใช้งานจริง ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อได้นั่นเอง 2. แบ่งตามวัตถุประสงค์ 2. 1 Educate (เพื่อให้ความรู้) คอนเทนต์ประเภทนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ Content Marketing ที่โฆษณาแบรนด์ได้อย่างแยบยล โดยเฉพาะถ้าสามารถให้ข้อมูลที่เป็น Fact อย่างเช่น Infographics หรือบทความต่างๆ เช่น เทคนิค วิธีการ เป็นต้น แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเนื้อหาที่สร้างอารมณ์ แต่ก็ต้องตอบความต้องการและช่วยแก้ปัญหาผู้อ่านหรือผู้ชมได้ 2. 2 Entertain (เพื่อให้ความบันเทิง) คอนเทนต์เพื่อให้ความบันเทิง ซึ่งเน้นสร้างหรือกระตุ้นอารมณ์ของผู้อ่าน จัดเป็นการทำ Content Marketing อีกประเภทที่ช่วยสร้าง Awareness ให้แบรนด์ได้ หากตอบสนองความบันเทิงให้กับกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลให้แบรนด์ได้เป็นที่รู้จักหรือเกิดการรับรู้ในวงกว้าง ยกตัวอย่างเช่น เกมการแข่งขัน วิดีโอไวรัล เป็นต้น 2.
MARKETING BLOG: Content Marketing คืออะไร? ใช้กลยุทธ์ทำคอนเทนต์อย่างไรให้ปัง!? การทำ Content Marketing ช่วยตอบโจทย์การทำการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ในลักษณะที่เลือกใช้กลยุทธ์แบบใหม่ๆ เพื่อดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กลุ่มเป้าหมายไว้วางใจ และตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการในที่สุด Content Marketing คืออะไร? Content Marketing ( คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง) คือการทำการตลาดเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเผยแพร่คอนเทนต์หรือเนื้อหาที่มีคุณค่า ได้ประโยชน์ เพื่อดึงดูด สร้างความจดจำ และเปลี่ยนให้ผู้อ่าน ผู้ชม หรือผู้ฟัง กลายมาเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ยอดขายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น เป็นหนึ่งในการทำการตลาดออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) คือ? ) การทำ Content Marketing ให้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์หลายอย่าง ซึ่งก่อนอื่นต้องเข้าใจความแตกต่างของคอนเทนต์แต่ละประเภท และข้อดีที่แบรนด์จะได้รับ เพื่อให้สามารถวางกลยุทธ์และเผยแพร่คอนเทนต์ออกไปอย่างเหมาะสมที่สุด ประเภทของคอนเทนต์ (Content) ประเภทของคอนเทนต์สำหรับการทำ Content Marketing สามารถจำแนกได้หลักๆ จาก 2 อย่าง คือจำแนกตามลักษณะและตามจุดประสงค์ โดยคอนเทนต์แต่ละประเภทมีรายละเอียดดังนี้ 1.
เริ่ม Inbound Marketing ด้วยตัวเองอย่างไรดี?
ดันคอนเทนต์ในโลกออนไลน์ ให้ไปต่ออย่างไรในปี 2022 1.
สร้างสังคมบนสื่อออนไลน์ ( Community) สร้างสังคมบนสื่อออนไลน์ ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับกับการทำธุรกิจในยุคนี้อย่างมาก การสร้างสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากจะสร้างความไว้วางใจกับกลุ่มเป้าหมายได้แล้ว ยังเป็นการสร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย เพราะการที่บล็อกเกอร์หรือนักเขียนคนเทนท์ได้เข้ามาเขียนบทความต่างๆ นอกจากจะทำให้น่าสนใจมากขึ้น ผู้ให้บริการยังได้ข้อมูลดีๆกลับไปอีกด้วย 2.
3 Inspire (เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ) หากพูดถึงคอนเทนต์ที่ใช้ Influencer หรือผู้มีชื่อเสียงในวงการต่างๆ มาเป็นตัวหลัก นั่นคือ Content Marketing แบบสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งกระตุ้นให้ผู้อ่านต้องการซื้อสินค้าหรือบริการของแบรนด์นั้นๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะเห็นมาจากผู้มีชื่อเสียงที่ติดตามอยู่ นับเป็นคอนเทนต์ประเภทที่มีเป้าหมายคือการเพิ่มยอดขายนั่นเอง (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Influencer Marketing คือ? ) 2. 4 Convince (เพื่อโน้มน้าว) Content Marketing ที่มุ่งเน้นสนับสนุนการขายคือคอนเทนต์เพื่อโน้มน้าวใจ แม้ไม่ได้ใช้ความบันเทิง แต่จะเน้นใช้หลักเหตุผลเป็นส่วนสำคัญในการชักจูงกลุ่มเป้าหมายตัวอย่างเช่น การใช้ข้อมูลคุณสมบัติของสินค้าหรือบริการ การเปรียบเทียบราคา เป็นต้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเภทที่ช่วยส่งเสริมการขายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ทำไมต้องทำ Content Marketing? ปัจจุบันแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่หรือเล็กได้หันมาใช้ Content Marketing ในการทำการตลาดออนไลน์กันมากขึ้น เนื่องจากมีข้อดีหลายอย่างที่ช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น สามารถขยับขยายและเติบโตจนประสบความสำเร็จได้ 1. สร้างการรับรู้ของกลุ่มเป้าหมาย Content Marketing ช่วยเพิ่ม Awareness หรือการรับรู้มากขึ้นสำหรับลูกค้าใหม่ การทำคอนเทนต์บางประเภท เช่น การทำ Infographic ใน Social Media ต่างๆ จะตรงโจทย์นี้มาก เนื่องจากมีข้อมูลตอบสนองความต้องการของผู้อ่าน ซึ่งอาจเปลี่ยนมาเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ อีกทั้งยังแชร์ต่อได้ง่าย ส่งผลให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย 2.
การตลาดแบบ Inbound Marketing มีหลายรูปแบบที่สามารถใช้เพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และดึงดูดธุรกิจใหม่—Content Marketing บล็อก, อีเวนต์, Search Engine Optimization (SEO), โซเชียลมีเดีย และอื่น ๆ Inbound กับ Content Marketing ต่างกันอย่างไร? จุดโฟกัสหลักของ Inbound Marketing คือการส่งเสริมให้ลูกค้าดำเนินการต่าง ๆ เช่น สอบถาม ซื้อสินค้า หรือกรอกแบบฟอร์ม ส่วน Content Marketing มุ่งเน้นไปที่การสร้างและแจกจ่ายเนื้อหาในหลายช่องทางโดยเฉพาะ หลักการ Inbound ห้าประการคืออะไร? 5 Principles of Inbound Marketing มีดังนี้: Standardize, Contextualize, Optimize, Personalize และ Empathize (S. C. O. P. E). Email Marketing เป็น Inbound หรือ Outbound? การตลาดผ่าน Email Marketing ควรเป็น Inbound เป็นหลักและเสริมด้วย Outbound แบบดั้งเดิมมากขึ้น ตามหลักการทั่วไปอัตราส่วนที่เหมาะสมของขาเข้าและขาออกอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับธุรกิจและฐานลูกค้าของคุณ Facebook เป็น Inbound หรือ Outbound? ส่วนมาก Facebook Ads จะเป็น Outbound Marketing ซึ่งผู้โฆษณาส่งข้อความของพวกเขาออกไปหาลูกค้า ส่วน Inbound Marketing ก็ยังทำงานได้ดีเช่นกัน โดยเปิดให้ลูกค้ามาหาคุณและสร้างความสัมพันธ์ด้วยเนื้อหาที่ตอบโจทย์พวกเขา ตัวอย่างของ Outbound Marketing มีอะไรบ้าง?
1 คอนเทนต์คืออะไร จำเป็นสำหรับธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่?
92veso.com, 2024 | Sitemap