With a MBA degree in Finance and Investment, I have a full understanding of the Business Finance and I also have experience in Accounting. นอกจากการพูดข้อดีของเราที่เหมาะสมกับตำแหน่งแล้ว ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน ก็ควรบอกด้วยว่ามี Experiance อะไรบ้างโดยลิสต์เป็นข้อๆ ว่าทำงานอะไรมา รับผิดชอบโปรเจ็คท์อะไร เป็นต้น และถ้าหากคุณมีเอกสารแนบ เช่น เรซูเม่ พรีเซนเทชั่น ใบรับรอง หรือตัวอย่างพอร์ทผลงานของคุณ สามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ว่า "I am enclosing a completed job application, my certification, my resume, and my portfolio. " คุณได้แนบใบสมัครที่กรอกแล้ว ใบรับรอง/ใบประกาศ เรซูเม่ และพอร์ทฟอลิโอมาด้วย ขั้นตอนที่ 7: จบอีเมลด้วยการขอบคุณและบอกช่องทางการติดต่อกลับ หลังจากที่เราบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองคร่าวๆ เราควรจบอีเมลด้วยประโยคเช่น "Please see my resume for additional information on my experience. " กรุณาดูเรซูเม่เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ และขอบคุณผู้รับที่สละเวลาอ่านอีเมลของคุณว่า "Thank you for your time and consideration. " ซึ่งตรงนี้เป็นมารยาทสากลที่คุณควรขอบคุณผู้พิจารณาอีเมลของคุณ หลังจากนั้นคุณควรทิ้งช่องทางการติดต่อให้กับทางบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทร อีเมลนี้ หรือสะดวกให้นัดพบ ก็ควรแจ้งไปในอีเมล์ด้วยเลย ตัวอย่างการแจ้งช่องทางติดต่อกลับ: - I can be reached anytime via email at or my cell phone, 099-123-4567.
เขียนอธิบายตัวเองคร่าวๆ เป็นใคร จบจากที่ไหน ทำอะไรอยู่ ทำไมสนใจสมัครตำแหน่งนี้ และจะติดต่อกลับได้ยังไง โดยเป็นภาษาที่ทางการ เพื่อให้บริษัทได้รู้จักคุณคร่าวๆ เพราะหากไม่เขียนอะไรมาเลย ก็มีโอกาสง่ายมากที่จะโดนปัดตกทันที 4. เช็กให้ดีว่าแนบไฟล์เรซูเม่หรือผลงานที่เกี่ยวข้องแล้วเรียบร้อยหรือยัง และชื่อไฟล์ควรใช้ให้เป็นทางการ แจกแจงว่าไฟล์นี้คืออะไร เพื่อไม่ให้ทางบริษัทต้องเสียเวลามาเดาสุ่มว่าไฟล์ไหนคืออะไร และผลงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องเกี่ยวข้องจริงๆ และเลือกมาเท่าที่เรารู้สึกว่าโดดเด่นจนบริษัทต้องว้าววววว (ไม่ควรเกิน 5-6 ผลงาน) และไฟล์ที่แนบมาก็ไม่ควรใหญ่เกินไป เพราะบริษัทอาจปิดใจระหว่างรอโหลดไฟล์ขนาดมหึมาของคุณก็ได้ 5. สุดท้าย! ตรวจสอบความถูก-ผิดของตัวอักษรด้วยนะ ทำเรซูเม่แบบไหน? เรซูเม่ เป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะถือว่าเป็นหน้าเป็นตาแทนตัวเราที่บริษัทจะได้ทำความรู้จักอย่างแท้จริง ดังนั้นการทำเรซูเม่ให้น่าอ่าน น่าสนใจ ก็อาจจะทำให้ทางบริษัทประทับใจเราได้ แล้วเราควรจะใส่อะไรลงไปในเรซูเม่บ้างนะ? 1. ชื่อ-นามสกุล ประวัติส่วนตัว เช่น วันเกิด ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล สิ่งเหล่านี้ควรใส่เพื่อให้บริษัทได้รู้จักเราคร่าวๆ ว่าเป็นใคร มาจากไหน แต่ไม่ต้องถึงขั้นใส่น้ำหนัก ส่วนสูง กรุ๊ปเลือด (ซึ่งขึ้นอยู่กับตำแหน่งนะ บางที่ก็อาจจะจำเป็นแหละ) 2.
ศ. 2561 เรื่อง: ขอความอนุเคราะห์เงินสนับสนุนกิจกรรมออกค่ายเพื่อการศึกษา ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เรียน: ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอบีซีดีอีเอฟจี จำกัด (มหาชน) สิ่งที่แนบมาด้วย: 1. รายละเอียดกิจกรรมออกค่ายเพื่อการศึกษา 2. กำหนดการกิจกรรมออกค่ายเพื่อการศึกษา 3. รายละเอียดค่าใช้จ่ายในกิจกรรมออกค่ายเพื่อการศึกษา 4. ตัวอย่างป้ายไวนิลเพื่อประชาสัมพันธ์บริษัท ด้วยคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอ็กซ์วายซี จะมีการจัดกิจกรรมออกค่ายเพื่อการศึกษาเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในระหว่างวันที่ 2 – 9 ตุลาคม พ.
ไหนใครไม่เคยส่งอีเมลสมัครงานเป็นภาษาอังกฤษบ้าง ยกมือขึ้น!... โอ้โห เยอะเหมือนกันนะครับเนี่ย แต่ขอบอกเลยครับว่าเรื่องนี้ "จำเป็นต้องรู้" เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ว่าบริษัทต่างชาติหรือบริษัทไทย ก็มักจะให้คุณส่งอีเมลเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้นแหละ... งั้นเราไปดูกันเลยดีกว่า ว่า 8 ขั้นตอนมีอะไรบ้าง ขั้นตอนที่ 1: ระบุชื่อเรื่องอีเมลให้ชัดเจน ชัดเจน ชัดเจน!
Email (อีเมล์) นิยมการติดต่อสื่อสารในด้านของธุรกิจ รวมไปถึงการยื่นเอกสารขอสมัครงาน ซึ่งฝ่ายบุคคลจะได้เห็นอีเมล์ของคุณและเอกสารสมัครงาน ที่แนบของคุณเป็นสิ่งเเรก เพื่อพิจารณาและตัดสินใจรับคุณเข้ามาสัมภาษณ์งาน เพื่อให้การส่งอีเมล์ของคุณเป็นมืออาชีพมากขึ้น เราจึงมาบอกเคล็ดลับ เทคนิคส่งอีเมล์ สมัครงาน-ฝึกงาน เพื่อที่จะนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีของผู้เขียนในสายตาผู้รับ ดังนี้ เทคนิค ส่งอีเมล์สมัครงาน – ฝึกงาน 1. ชื่อเรื่องต้องระบุให้ชัดเจน ระบุให้ชัดเจนไปได้เลย ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นการสมัครงาน ควรระบุว่า "ต้องการสมัครงานในตำแหน่ง…" หากเป็นการส่งอีเมล์เพื่อขอรับพิจารณาการฝึกงาน ควรระบุว่า "ขอรับพิจารณาฝึกงานในตำแหน่ง…" หรือ "สมัครฝึกงานตำแหน่ง…" 2. ชื่ออีเมล์ต้องเป็นชื่อจริงและนามสกุลเท่านั้น การส่งอีเมล์ที่เป็นทางการ เราก็ควรใช้ชื่ออีเมล์ที่ทำให้เราดูน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ ซึ่งควรจะมี ชื่อ-นามสกุล ไม่ควรมีคำกุ๊กกิ๊กใดๆ ทั้งสิ้น ตัวอย่างที่ควรใช้เช่น มาริสา โอชา " (ในกรณีนี้จะเอาชื่อขึ้นก่อนก็ได้ หรือจะใช้ตัวแรกของนามสกุลขึ้นก่อน แล้วค่อยตามด้วยชื่อก็ได้เช่นกัน) ตัวอย่างที่ไม่น่าใช้ เช่น เจอแบบนี้อาจจะโดนคิดว่าเป็นสแปมเมล์โดยไม่รู้ตัว 3.
การใช้โปรแกรมอีเมลเพื่อติดตามลูกค้า ในการส่งอีเมลหาลูกค้าหากเราต้องการทราบถึงความเคลื่อนไหวหรือความคืบหน้า สามารถใช้โปรแกรมติดตามอีเมลลูกค้า เช่น Mailtrack จะทำให้ทราบว่าลูกค้าเปิดอ่านอีเมลของคุณเมื่อไหร่เวลาหลังจากส่งอีเมล และ ยังสามารถดูได้ถึงการเปิดดูอีเมลซ้ำๆเพื่อแสดงความสนใจ เราสามารถติดต่อกลับหรือส่งข้อมูลให้ลูกค้าเพิ่มเติมได้ 6. คำลงท้ายอีเมลล์ทุกครั้ง บทเริ่มสนทนามีการทักทายแล้ว เมื่อเราจะจบการสนทนาก็ต้องบอกลา การเขียนอีเมลล์ก็เช่นกัน โดยปกติคำกลางส่วนใหญ่ที่ใช้ ถ้าเป็นภาษาไทยจะใช้คำว่า ขอแสดงความนับถือ ส่วนคำภาษาอังกฤษที่ใช้ลงท้ายและมีความหมายเดียวกัน คือ Best Regards, หรือ Regards, หลังจากนั้นก็ลงชื่อตัวผู้เขียนอีเมล และอาจเขียนเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับด้วยก็ได้ 7.
มีความรอบคอบ เพื่อแสดงความเป็นมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาษาที่ถูกต้อง กระชับ และเข้าใจง่ายและไม่ควรมีความยาวเกิน 5 บรรทัด เพื่อภาพลักษณ์ของบริษัทและแสดงความเป็นมืออาชีพ รวมถึงตรวจสอบข้อความหรือแนบเอกสารที่ส่งไปยังผู้รับให้ถูกต้องและต้องให้มั่นใจว่าผู้อ่านจะเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการสื่อสารได้ถูกต้อง อาจใช้ Cc หรือ Bcc ให้ผู้รับท่านอื่นๆ ใน Gmail เพื่อแจ้งให้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นร่วมด้วย 2. จงใช้ชื่ออีเมลโดเมนเนมที่เป็นบริษัทคุณ หากยังใช้ "………" รูปแบบเดิมๆ จะทำให้บริษัทของคุณดูไม่มีความเป็นมาตรฐานและไม่น่าเชื่อถืออย่างมาก ฉะนั้นควรหันเปลี่ยนมาใช้อีเมล์ที่มีโดเมนเนมชื่อบริษัทของคุณ จะทำให้การสื่อสารประสิทธิภาพมากขึ้น หากยังไม่ได้สมัครโดเมนเนมบริษัท จงติดต่อซื้อโดเมนเนม (Domain Name) และนามสกุลอีเมลที่ลงท้ายด้วยชื่อบริษัทของคุณ เช่น บริษัท ฟ้าใส จำกัด นามสกุลอีเมลก็ควรจะเป็น "……. " เป็นต้น ซึ่งการซื้อก็ทำได้ง่ายๆผ่าน Google for Business ซึ่งราคาไม่แพง แถมยังเช็คได้อีกด้วยว่านามสกุลอีเมลที่คุณต้องการใช้นั้นซ้ำหรือไม่ จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง 3.
ดูเคล็ดลับด้านล่างเกี่ยวกับวิธีการที่จะระบุความล้มเหลวในการตอบกลับของอาจารย์ ถ้าคุณส่งข้อมูลไปสั้นๆ ("หนู/ผมไม่สบายเลยไปเรียนไม่ได้ในวันอังคาร แต่อารยาจะเป็นคนเอางานไปส่งให้ค่ะ/ครับ") อาจารย์ก็อาจจะไม่เห็นว่าจำเป็นต้องตอบกลับอีเมลของคุณ ในกรณีนี้ คุณก็เสร็จแล้วล่ะ ให้เวลาอย่างพอดีต่อการตอบกลับ อาจารย์บางท่านไม่ได้เข้ามาที่มหาวิทยาลัยทุกวันและอาจไม่ได้เข้าถึงอินเตอร์เน็ตเวลาอยู่ที่บ้าน ดังนั้นคุณอาจจะต้องรอสักสองสามวัน 14 เมื่อมีการตอบกลับ แสดงด้วยว่าคุณรับรู้.
: อย่าลืมที่จะอ่าน หนังสือพัฒนาตัวเอง ควบคู่ไปกับการปฏิบัติ ฝึกฝนในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้คำศัพท์ ฝึกอ่าน ฝึกเขียน ทำความเข้าใจกับบริบทของการใช้ประโยคอย่างจริงจัง ให้กำลังใจตัวเอง คิดบวกเข้าไว้ ไม่ว่ายังไงเราเชื่อว่าเธอทำได้และจะเป็นกำลังให้เสมอนะคะ DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันได้ไอเดียในการค้นหาตัวเองใช่ไหม? ลองแชร์วิธีการพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษเข้ามากันเยอะๆ นะคะ ♡ อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก:,, diyinspirenow วิธีเขียนอีเมล วิธีเขียนอีเมลภาษาอังกฤษ หาข้อมูล-ลงมือเขียนและเรียบเรียงโดยทีมกองบรรณาธิการเว็บไซต์ DIY INSPIRE NOW
92veso.com, 2024 | Sitemap